1.ผลิตน้อยกว่าความต้องการ
หลายแบรนด์รู้สึกว่าได้รับคงวามต้องการสูงแทนที่จะทำการผลิตให้ได้ตามความต้องการของลูกค้า
แต่กลับผลิตน้อยกว่าความต้องการ จึงทำให้ยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ก้คงไม่แปลกที่นักลงทุนแบรนด์เนมจะมาขายต่อเพื่อเก็งกำไร
2.ราคาต้องเท่าเทียมทั่วโลก
หลายแบรนด์มองเรื่อง Pricing strategy ด้วยการตั้งราคาสินค้าที่เป็นกลางทั่วโลก แต่กลับกันเมื่อเกิดสภาวะเงินเฟ้อในประเทศนั้นๆ ก็อาจจะทำให้การปรับราคาสินค้าแบรนด์เนมขึ้นลงตามสภาวะเงินของแต่ละประเทศ
3.การตลาดของแบรนด์ที่สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
หลายแบรนด์ใช้การวางตัวเพื่อกำหนดจุดยืนบนตลาด เพื่อให้ความมั่นใจแกลูกค้าว่า ไม่ว่าคุณซื้อไปอย่างไร ก็ไม่มีทางราคาลดอย่างแน่นอน ตรงกันข้ามมีแต่จะเพิ่มขึ้นโดยทำให้รู้สึกว่าแบรนด์นี้ซื้อไปแล้วราคายังไงก็ไม่ตก
